Haxnbauer ร้านอาหารกลางเมืองมิวนิค (Munich) ที่มีขาหมูเด็ดที่สุด

Haxnbauer

ร้านอาหารกลางเมืองมิวนิค (Munich) ที่มีขาหมูเด็ดที่สุด

Munich เมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย ทางตอนใต้ของเยอรมัน ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่ทำให้ที่นี่มีร้านอาหารมากมาย ร้านที่จะพาไปกินในรีวิวนี้เป็นอาหารมื้อหลักมื้อแรกในการเดินทางไปเที่ยวยุโรปครั้งนี้เลย แต่ร้านนี้อยู่นอกแผนของผม เพราะตอนแรกตั้งใจว่าจะไปกินร้าน Hofbrauhaus โรงเบียร์ชื่อดังของมิวนิค แต่พอไปถึงแล้วคนเยอะมาก และก็ไม่รู้ว่าเค้าต้องหาโต๊ะกันยังไง เพราะข้างในร้านมีแต่ความวุ่นวาย เรียกว่าเป็น Culture Shock ก็ได้ เลยตัดสินใจเดินออกร้านมาแบบ งง ๆ ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะกินอะไรดี ก็นึกถึงร้านที่เดินผ่านมาได้ว่า มีร้านนึงน่าสนใจเลยลองเดินย้อนกลับไปดู ปรากฏว่าโต๊ะเต็มเช่นกัน แต่ร้านนี้ใช้วิธียืนต่อคิวหน้าร้านแล้วรอพนักงานเรียกคิว เราเลยตัดสินใจไปยืนต่อกันบ้าง มื้อแรกในร้านอาหารของเราเลยได้กินที่นี่ Haxnbauer

ร้าน Haxnbauer อยู่ไม่ไกลจาก New TownHall สัญลักษณ์ของเมืองมิวนิค เดินประมาณ 400 เมตรก็ถึง

(ดูตำแหน่งร้านด้วย Google Map คลิกที่นี่)

และที่บอกว่าร้านนี้น่าสนใจเพราะว่าตอนเดินผ่านจะเห็นหน้าต่างของร้าน กำลังย่างอะไรสักอย่างอยู่จำนวนมาก ดูไกล ๆ ประกอบกับความคุ้นเคยกับอาหารบ้านเรา ตอนแรกก็นึกว่าต้องเป็นไก่ย่างแน่ ๆ

แต่พอมาดูใกล้ ๆ แล้วมันก็คือ ขาหมู นั่นเอง

ร้านนี้มีดีอีกอย่างคือมีเมนูภาษาอังกฤษแปะไว้หน้าร้านเลยด้วย สามารถดูราคาก่อนได้เลย แต่อย่างที่บอกมื้อนี้เป็นร้านอาหารมื้อแรก ก็ไม่รู้ว่าราคาร้านอื่นมันถูกหรือแพงกว่านี้ ดูไปก็เท่านั้นไปกินเลยดีกว่า ภายในร้านค่อนข้างใหญ่ เราได้โต๊ะบริเวณหน้าเคาเตอร์ทำอาหาร เลยไม่ได้เดินไปถ่ายบรรยากาศร้านส่วนอื่น

ปัญหาอีกอย่างนึงของวันนี้คือ แต่ละคนดูไม่ค่อยพร้อมกินเท่าไหร่ เพราะเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 3 ทุ่ม เครื่องลงมาตอน 8 โมง บนเครื่องก็นอนไม่หลับ ส่วนน้องชายผมเมาเครื่องบินอีก ทำให้ไม่ค่อยเจริญอาหารเท่าไหร่ แล้วร้านอาหารแบบนี้ปกติโดยมารยาทต้องสั่งคนละอย่าง เราก็เลยต้องสั่งอะไรให้ครบ 4 อย่างทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยหิว แต่พอสั่งเสร็จปุ๊บ พนักงานถามว่า Share ไหม พอเราพยักหน้าพนักงานก็ไปเอาจานเล็ก ๆ มาให้ตามจำนวนคน โอ้ววว ยุโรปเค้าเปลี่ยนไปแล้ว สงสัยคงเพราะคนเอเชียไปเที่ยวเยอะขึ้น จนเค้าเข้าใจแล้วว่าวัฒนธรรมการกินของพวกเราคือแชร์กันกิน

สั่งเครื่องดื่มกันดีกว่า น้องชายผมสั่ง เบียร์ Dinkelacker ครึ่งลิตร 4.90 ยูโร คิดว่ากินแล้วเผื่อจะดีขึ้น แต่สุดท้ายก็กินไม่ลง ไม่รับรู้รสเลยว่าเบียร์ดีไหม

แก้วต่อไป Schweppes Bitter Lemon 3.50 ยูโร น้ำมะนาวโซดาเข้มข้น รสออกขม ๆ เหมือนเอามะนาวมาคั้นทั้งเปลือก บางอารมณ์มันก็อร่อยดีนะ

Sprite 2.70 ยูโร แก้วนี้ Save สุด เห็นไม่มีฟองแบบนี้แต่รสชาติก็ซ่าใช้ได้นะ เสียตรงที่ยุโรปไม่มีน้ำแข็งให้นะ

Apfelsaftschorle หรือ น้ำแอปเปิ้ล 3.70 ยูโร แก้วนี้อร่อยดี อร่อยกว่าน้ำแอปเปิ้ลบ้านเราเยอะ

มาถึงของคาวกันบ้าง
Mushroom Soup ซุปเห็ด 6.2 ยูโร อร่อยมาก โครตเข้มข้น กินเข้าไปมีแต่เนื้อเห็ดบดมาเต็ม ๆ

Isar Salad 13.90 ยูโร เป็นผักตามฤดูกาลมาพร้อมกับปลาเทราท์ย่าง จานใหญ่พอสมควร ผักสด ปลาเทราท์อร่อยมากเช่นกัน จานนี้ 5 ดาวไปเลย

1/2 Pork Knuckle ขาหมูครึ่งขา 18.90 ยูโร เสิร์ฟพร้อมกับ เกี๊ยวมันบด (Potato Dumplings) เห็นย่างโชว์หน้าร้านขนาดนั้นเลยคิดว่าต้องเด็ดแน่นอน พอกินลงไปแล้วต้องแยกความรู้สึกออกมาเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกหนังหมูโคตรอร่อย กรอบ ไม่แข็ง สุดยอดไปเลย ส่วนที่ 2 เนื้อหมูส่วนตัวผมว่ามันแข็งไปหน่อย ตอนแรกคิดกันว่า สงสัยร้านนี้มันไม่เด็ดจริงแบบที่โชว์ ที่ไหนได้ตลอดทริปนี้ร้านนี้คือขาหมูทอด (ที่เสิร์ฟมาเป็นขา) ที่อร่อยที่สุดแล้ว ร้านอื่นสู้ไม่ได้เลย อ้อ…ส่วนเกี๊ยวมันบดที่มาด้วยนี่ก็ไม่ค่อยถูกปาก มันดูเหมือนมันบดผสมแป้งมันดูใส ๆ ลื่น ๆ ไม่ชอบเลย

6 Small Kuffler Grilled Sausages 11.90 ยูโร เป็นไส้กรอกเล็กย่าง เสิร์ฟพร้อมกับ Kraut หรือผักดอง จานนี้น่าผิดหวังที่สุด คือในจานนี้ไม่มีอะไรอร่อยเลย ไส้กรอกก็รสชาติแปลก ๆ บอกไม่ถูกว่ามันมีอะไร แต่มันไม่อร่อย Kraut ก็รสชาติแย่ จานนี้แทบไม่มีใครกินเลย

โดยรวมแล้วร้านนี้แม้ว่าจะเข้าไปกินโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เป็นร้านที่อร่อยมากร้านนึง และพอได้กินร้านอื่น ๆ เทียบแล้วก็ทำให้รู้ว่า ราคาที่นี่ก็แพงกว่าที่อื่นด้วยเช่นกัน แถมมี ภาษี กับ Service Charge อีก 19% ด้วย กลับมาหาข้อมูลทำให้รู้ว่าร้าน Haxnbauer นี่มี Chain อยู่มากมายแต่ใช้ชื่อคนละชื่อนะ แถมคะแนนใน TripAdvisor ก็ได้ 4 คะแนน ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว