Hofbrauhaus เป็นโรงเบียร์เก่าแก่ของ Munich ที่ใครไปก็ไม่ควรพลาด

Hofbrauhaus เป็นโรงเบียร์เก่าแก่ของ Munich ที่ใครไปก็ไม่ควรพลาด

Hofbrauhaus เป็นโรงเบียร์เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากๆ ของเมือง Munich ใครๆก็บอกว่ามาเมืองเบียร์ทั้งที ก็ต้องไปชมบรรยากาศโรงเบียร์เค้าด้วย  ถึงแม้ปลากับพี่เอ๋จะไม่สันทัด แต่ก็ไม่พลาดที่จะไปเยือนค่ะ อยากไปเห็นวัฒนธรรมของบ้านเมืองเค้า ร้านก็หาไม่ยากเลยค่ะ อยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวอย่าง new town hall เลย

ดูแผนที่ด้วย google map คลิกที่นี่

 

จริงๆ แล้วเป็นร้านที่ตั้งใจจะไปกินตั้งแต่มื้อแรกที่ไปเหยียบเมือง Munich เลยล่ะ แต่วันแรกที่ไปถึงทุกคนเหมือนเพลียๆจากการนั่งเครื่อง มึนๆ อึนๆกัน แถมช็อคกับสภาพอากาศที่ไปจากไทยสามสิบกว่าองศา แต่พอไปถึง 0 องศาซะงั้น ทั้งๆที่ช่วงที่ไปกำลังเข้าฤดูใบไม้ผลิ  พอเราไปถึงโรงเบียร์ก็เพิ่มความช็อคอีกอย่างเข้าไปคือ culture shock งงตั้งแต่ทางเข้าร้านที่ผู้คนมากมายล้นหลามล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน นี่ก็ไปยืนงงๆด้านหน้าว่าต้องรับบัตรคิวมั้ย  แต่สุดท้ายก็เห็นใครๆก็เดินเข้าไปกันเฉยๆ การ์ดด้านหน้าประตูก็ไม่ได้จะทำอะไร ก็เลยเดินตามๆ เค้าเข้าไปค่ะ 55555

 

บรรยากาศข้างในจะว่าเป็นร้านอาหารก็ไม่ใช่ โรงอาหารก็ไม่เชิง ดูผู้คนพลุกพล่านวุ่นวายมาก แล้วร้านก็ใหญ่มากกกกกกกกกกกกกก

มีเวทีวงดนตรีเล่นสดด้วย ร่าเริงบันเทิงใจสุด พอเพลงเร็วคนก็จะร่วมร้องเพลงมั่ง เต้นมั่ง สนุกมากกก ชอบบบบบบ 5555

 

วันแรกที่เรามา เราพยายามหาพนักงานเสิร์ฟแล้วบอกเค้าว่าเราอยากได้โต๊ะ แต่ทุกคนดูยุ่งวุ่นวาย ไม่มีใครสนใจเราสักคน แล้วก็ไม่รู้จะไปถามใครอีก สุดท้ายยืนมึนๆ งงๆกันทั้งแก๊งค์แล้วก็เลยเดินออก 55555  พอมาลองวันสุดท้ายก่อนกลับอีกรอบ ก็เลยมายืนสังเกตดู เหมือนกับทุกคนต้องหาโต๊ะกันเอาเอง ว่างก็รีบนั่งเลย นั่งแล้วค่อยเรียกพนักงานขอเมนู หรือสั่งอาหารกันอีกที

 

เคาน์เตอร์สำหรับเบียร์อยู่ใกล้ๆแบบนี้เลย

 

วันสุดท้ายของทริปละ ปลาเริ่มสั่งเบียร์กินมั่ง แต่ก็นะ ไม่กล้าสั่งแบบเพียวๆ ขอกินแบบแรดเลอร์แทน กินง่ายกว่ากันเยอะ อร่อยด้วย แต่พี่เอ๋นี่เนื่องจากแพ้แอลกอฮอล์ก็อดไป

 

จานแรกเลย เมนูขึ้นชื่อของประเทศเค้าเนอะ ขาหมูเยอรมัน เราว่ายังเฉยๆแฮะ เราเคยกินอร่อยกว่านี้นะ 5555 คือหนังมันกรอบแบบเหนียวนิดๆ ส่วนเนื้อข้างในก็ยังแอบแข็ง แล้วก็ไม่ชอบมันบดแบบนี้เล้ย มันหยึยๆชอบกล จานนี้ 14.90ยูโร

 

จานที่ 2 ไส้กรอกเยอรมัน นี่ไม่คิดว่าสั่งมาแล้วจะมีแค่อันเดียวนะ 5555 แต่ไส้กรอกมันก็อันใหญ่อยู่ล่ะ เสิร์ฟคู่กับเคราท์ หรือกะหล่ำดอง ต้องยอมรับว่าไส้กรอกบ้านเค้าอร่อยกว่าของบ้านเราจริงๆ แต่ไส้กรอกที่อร่อยที่สุดเราต้องยกให้ร้านที่เมือง nuremberg (คลิกดูรีวิวที่นี่)  ส่วนไส้กรอกจานนี้ 8.90ยูโร

 

จานที่ 3 เรียกว่ากูราช ฟิลเหมือนสตูว์เนื้อเลยค่ะ จะมีเนื้อสับปั้นก้อนอยู่ในนั้นด้วย เครื่องเคียงเป็นมันบดแบบที่เราไม่ชอบอีกแล้ว ฮือออ จานนี้ 14.90ยูโร

 

ในร้านจะมีพนักงานเดินสะพายตะกร้าใส่ขนมปังขายด้วยค่ะ จำราคาไม่ได้ละ แต่ขนมปังชิ้นใหญ่มาก คับหน้าเลย รสชาติจะออกเค็มๆ นิดๆ ค่ะ แต่เป็นขนมปังที่แข็งมาก ปาหัวคนเล่นได้ 55555 แต่เอามากินกับกูราชก็โอเคอยู่นะ

 

ค่าเสียหายมื้อนี้ 56ยูโร ก็อย่างที่บอกเนอะ กลับเข้าสู่เมืองกรุงค่าอาหารมันก็จะแแพงขึ้นมาหน่อย โชคดีที่อาหารทางยุโรปเค้าจานใหญ่ๆ ทั้งนั้น ถ้าจะกินคนละจานก็อิ่มจุกอยู่นะคะสำหรับคนไทยแบบเรา ยกเว้นจะเป็นคนกินจุมาก

 

โดยรวมเราชอบบรรยากาศร้านค่ะ ถึงแม้จะเสียงดังวุ่นวาย อึกทึกครึกโครมกันมาก แต่ได้เห็นวัฒนธรรมของคนเมืองเบียร์นี่ชัดเจนมาก แถมวันนั้นที่ไปกินเป็นวันอาทิตย์ที่จะมีบอลเตะด้วย เมืองยิ่งคึกคักทวีคูณค่ะ ในร้านคนจะร่าเริงสนุกสนานกันมาก ร้องเพลงไป เคาะแก้วเบียร์ไปแบบพร้อมเพรียง สนุกมากเลยค่ะ แนะนำเลย สำหรับคนมาเที่ยวเยอรมัน ต้องมาเสพบรรยากาศแบบนี้สักครั้งค่ะ