Peggy’s Cove Resort รีสอร์ทสไตล์หมู่บ้านชาวประมงริมหาดคุ้งวิมาน จันทบุรี

Peggy’s Cove Resort รีสอร์ทสไตล์หมู่บ้านชาวประมงริมหาดคุ้งวิมาน จันทบุรี

ถ้าพูดถึงอาหารทะเลที่อร่อย และ ราคาถูก แล้วละก็ ผมขอโหวตให้จันทบุรีเป็นอันดับต้น ๆ เลย ยิ่งถ้าเทียบกับจังหวัดที่ห่างจาก กรุงเทพฯ ในระยะ 300 กิโล แล้วนี่คือสถานที่ต้องห้ามพลาด ไปเที่ยวทีไร อิ่มพุงกาง เข้าร้านไหนก็อร่อย นอกจากเรื่องอาหารแล้ว จันทบุรียังเป็นจังหวัดท่องเที่ยวทะเลสุดฮอตของคนไทยในหน้าร้อน ที่นี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอื่น ๆ อีกมากมายทั้ง น้ำตก ชุมชนเก่า โบสถ์ แถมที่พักที่นี่ยังมีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักร้อย ไปถึงราคาหลายพันบาท วันนี้ผมจะพาไปพักที่ Peggy’s Cove รีสอร์ทสไตล์หมู่บ้านชาวประมง ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านชาวประมงที่ประเทศแคนาดา (ไม่ได้ก๊อปนะ) จะสวยงามขนาดไหนไปดูกันเลย

Peggy’s Cove ตั้งอยู่ริมหาดคุ้มวิมาน พอถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกับจุดชมวิวเนินนางพญา ขับไป 150 เมตร รีสอร์ทจะอยู่ซ้ายมือ สังเกตุประภาคารกับบ้านสีเหลือง ที่จอดรถอยู่ด้านใน ใครขับรถมาก็เลี้ยวเข้าไปได้เลย

(ดูตำแหน่งท่าเรืออ่าวน้ำเมาด้วย Google Maps คลิกที่นี่)

ตรงข้ามรีสอร์ทเป็นอ่าวไทย มุมพระอาทิตย์ตก

มาถึงแล้วก็ Check-in กันก่อน ทริปนี้ผมจองที่พักผ่าน App Traveloka ช่วงนี้ทำตลาดหนัก ราคาใน App ดีมาก ใครสนใจลองเข้าไปดูที่พักกันได้ (คลิกที่นี่เลย) Lobby ของ Peggy’s Cove ตกแต่งด้วยสีพาสเทล (ที่ทำให้ทุกอย่างดูซอฟต์ลง)

Welcome Drink มีน้ำมะตูม กับ กระเจี๊ยบ เค้ายกมาเสิร์ฟเลยเลือกไม่ได้

หลังจากนั้นก็เอาของขึ้นรถกอล์ฟ ขับเข้าไปในโซนที่พัก ภาพแรกที่เห็นนี่ มันช่างสวยงามน่าดูยิ่งนัก ที่นี่ออกแบบห้องพักเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ มีบางส่วนเป็นหลังใหญ่ 2 ชั้น

นั่งรถมาไม่ถึง 100 เมตร ก็เจอตึกที่เราพักแล้ว เราพักชั้นบน ห้องด้านล่างมีสระส่วนตัวด้วยนะ

มาดูในห้องกันบ้าง ห้องถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา พออยู่ชั้นบนแล้วก็ดีอย่างตรงที่หลังคาสูง เหมือนอยู่บ้าน

ระเบียงที่นี่ใหญ่มาก มีโซฟาให้นอนเล่นด้วย

มาดูในห้องน้ำกันบ้าง มีให้ทั้งอ่าง ฝักบัว ให้เลือกใช้ได้ น้ำที่นี่ค่อนข้างร้อน ปรับยังไงก็ร้อน

มีระบบควบคุมแสงไฟแบบสัมผัสด้วย แต่ควบคุมได้ไม่กี่จุด ที่เหลือยังเป็นสวิตช์ไฟเหมือนเดิม

TV มีให้ดู 31 ช่อง

ของตกแต่งอื่น ๆ ก็ดูน่ารักดี มีลำโพงสำหรับวางโทรศัพท์ไว้เพื่อทำให้เสียงเพลงดังขึ้นด้วย ตอนเห็นก็ดูน่าสนใจ พอลองใช้เท่านั้นแหละ (ไม่เห็นมันจะดังขึ้นเท่าไหร่เลย)

อุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องน้ำมีครบครัน

ชากาแฟ ขนม กินได้ทั้งหมด รวมถึงน้ำในตู้เย็น ที่จัดมาเต็มมาก ให้น้ำเปล่า 4 ขวดเลยทีเดียว

บัตรสำหรับเข้าห้องและเปิดระบบไฟมีให้ 2 ใบ มาพร้อมกับรหัส Wifi

ถ่ายห้องเสร็จแล้ว ถ่ายเมียซะหน่อย

วิวด้านนอกจากห้องชั้นบน สวยดีเนอะ

ไปเดินดูรอบ ๆ รีสอร์ทกัน พอมาเดินจริง ๆ ที่นี่ไม่ใหญ่มากนัก มุมสวยสำหรับถ่ายรูปจะอยู่บริเวณกลาง (เค้ามีสัญลักษณ์ให้ด้วยว่าต้องถ่ายตรงไหน) แต่บรรยากาศโดยรวมดูดี

วันนี้มีขายบาร์บีคิวตอนเย็นด้วย น่าจะมีเฉพาะเสาร์อาทิตย์มั้ง

เดินมาดูด้านหน้ารีสอร์ทแถว ๆ Lobby กัน ด้านข้าง Lobby จะเป็นร้านอาหาร ซึ่งเป็นที่กินมื้อเช้าด้วย ชื่อว่า Light House Bar & Grill อยู่ชั้น 2

ติดกันตรงทางรถเข้า ที่เป็นประภาคาร คือร้านกาแฟ ชื่อ Coffee Cove เป็นร้านเล็ก ๆ มีที่นั่ง 3 – 4 โต๊ะเท่านั้น

สั่งกาแฟมากินหน่อย รสชาติธรรมดา ส่วนไอติมสตรอเบอร์รี่ซอทเบท นี่จัดจ้านดี

ตอนเย็นเราก็ไปดูพระอาทิตย์ตกกันที่ จุดชมวิวเนินนางพญา ได้ ขับรถแค่ 3 – 4 นาทีก็ถึงแล้ว จุดอ่อนที่สุดของที่นี่น่าจะเป็นเรื่องร้านอาหาร แถวหาดคุ้งวิมานไม่ค่อยมีร้านเท่าไหร่ ต้องขับรถไปสัก 30 นาที ไปหากินแถวหาดเจ้าหลาว ตรงนั้นมีร้านให้เลือกกินแบบไม่ซ้ำได้เป็นเดือน (นี่ก็เวอร์ไป)

มาดูบรรยากาศตอนกลางคืนกันบ้าง ที่นี่เงียบ ๆ เหมาะกับคนต้องการพักผ่อน นานจะมีรถผ่านมาสักคัน

กลับมาถึงห้องที่รีสอร์ทจะมีบริการ Turn down หรือ ปรับห้องให้พร้อมกับการนอน มีโน๊ตวางไว้ให้หลับฝันดี แถมมีคุ๊กกี้กันหิวให้อีก 2 ชิ้น น่ารักที่สุด คุณภาพที่นอนที่นี่ดีใช้ได้เลยหลับสบาย แถมมีหมอนให้เลือกเยอะแยะ

ตอนเช้าพระอาทิตย์จะขึ้นด้านหลังมุมมหาชนของที่นี่พอดี ก็ได้บรรยากาศอีกแบบ

มาถึงเรื่องอาหารเช้า เราไปกินกันที่ Light House Bar & Grill ชั้นสองตึกข้าง ๆ Lobby ด้านหน้าทางเข้าจะมีบูธไข่ให้เลือกสั่ง และเครื่องทำกาแฟ

ที่นี่ตกได้สวยดี น่านั่ง หน้าต่างมองออกไปก็เห็นทะเล

ไลน์อาหารถือว่าน้อยไปนิด ถ้าเทียบกับราคาที่จ่าย ของบางอย่างก็คุณภาพดี เช่นน้ำส้ม เบค่อน แต่ที่รับไม่ได้คือแยม หวานเป็นน้ำตาลอย่างเดียวเลย

อิ่มแล้วเราก็มาเดินถ่ายรูปเล่นกัน

นอกจากจุดชมวิวเนินนางพญาแล้ว หาดคุ้งวิมาน ก็มีจุดให้เล่นน้ำอยู่ทางขวาของโรงแรมประมาณ 2 นาที ซึ่งเป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ตกได้สวยงามเหมือนกัน หรือใครชอบน้ำตก ก็สามารถเดินทางไปเที่ยวน้ำตกพลิ้วได้ ขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงจากโรงแรม

โดยสรุปแล้วเป็นรีสอร์ทที่จำลองบรรยากาศหมู่บ้านชาวประมงได้ดี ลมทะเลก็ช่วยเสริมให้ได้ความรู้สึก แต่จะรู้สึกเหมือนอยู่แคนาดาก็คงไม่เพราะอากาศบ้านเราร้อนตับแลบ มุมถ่ายรูปสวย ๆ ก็มีเลือกพอสมควร ถือว่าคุ้มค่ากับการมาพักผ่อน เพื่อเติมพลังให้พร้อมกลับมาทำงานหาเงินไปเที่ยวใหม่อีกครั้ง