มรรคาแห่งรัก – ดวงตะวัน
นิยายเล่มที่ 16 ในชุด ธิโมส์ ผลงานของ “ดวงตะวัน” นักเขียนคนโปรดของปลาค่ะ เป็นนิยายชุดที่อ่านแล้วติดพอควรเลยนะ ทั้งๆ ที่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ต่อกัน แต่ละเรื่องก็จบในเล่มของตัวเอง มีแค่ไม่กี่เรื่องหรอกที่ต้องอ่านเล่มอื่นต่อ แต่ด้วยพล็อตที่น่าติดตาม เมืองสมมุติที่เหมือนจริงจนแทบจะสัมผัสได้ ตัวละครที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน ทำให้ชุดธิโมส์เป็นนิยายที่ไม่เคยพลาดจริงๆ เล่มนี้ก็เช่นกัน เมื่อเรื่องราวเกี่ยวเนื่องกับเทพทั้ง 3 ที่คนธิโมส์นับถือ ที่มาของตำนานหลายๆ อย่างจะถูกเปิดเผยขึ้นในเล่มนี้ นี่คือเหตุผลที่ไม่ควรพลาด
เรื่อง – มรรคาแห่งรัก
ผู้เขียน – ดวงตะวัน
สนพ – ดวงตะวัน
จำนวนหน้า – 347
ราคา – 290บาท
…จากคำนำ…
นับตั้งแต่เกาะรูปดวงดาวกลางมหาสมุทร ดินแดนสมมุติชื่อ ธิโมส์ ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกใน รุ้งจันทร์ตะวันดาว เรื่องราวสารพันอันเกี่ยวเนื่องกับ “แผ่นดินแสงดาว” ก็ได้ทยอยสู่สายตาของผู้อ่านและต่อเติมเสริม “ภาพ” เมืองสมมุติแห่งนี้ให้เสมือนจริง จนหลายคนอาจเผลอคิดไปว่า ท่ามกลางมหาสมุทรอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ ยังมีเกาะรูปดวงดารารอให้เราไปเยี่ยมเยียน ไม่เพียงฉาก สถานที่ ผู้คน และภาษา ที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสมจริง หากยังมีประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียม ความเชื่อ ตลอดจนพิธีกรรมที่ผูกร้อยไว้ด้วยตำนานปรัมปราและเทพปกรณัม ซึ่งยิ่งทำให้เมืองสมมุติแห่งนี้มีมิติ เปี่ยมเสน่ห์ น่าค้นหา
เทพปกรณัมที่บอกเล่าเรื่องราวของเทพเจ้าสูงสุดทั้งสามของธิโมส์ – เฮกัล เธมส์ และกูตูร์ ผู้ซึ่งมี “ตัวตน” แฝงฝังอยู้ในตัวละครเอกทุกตัวที่ปรากฏในนวนิยายชุดธิโมส์นี้
เฮกัล ตัวแทนของกำเนิดและความฝัน สัญลักษณ์แห่งความดีงาม
กูตูร์ ตัวแทนของความตาย สัญลักษณ์แห่งความลึกลับ ชั่วร้าย
และเธมส์ ตัวแทนของชีวิตและความจริง สัญลักษณ์แห่วความรักและความเมตตา
จะเป็นเช่นไรหากครั้งนี้ “ดวงตะวัน” จะพาเราก้าวข้ามดินแดนสมมุติอย่างธิโมส์สู่โลกสมมุติอีกใบที่ซ่อนซ้อนอยู่เบื้องหลัง ก้าวไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ต้นธารของทุกชีวิตและสรรพสิ่งบนแผ่นดินแสงดาว – – ดินแดนแห่งเทพปกรณัม
สัมผัสตัวตนที่แท้ และความสัมพันธ์ของเทพเจ้าสูงสุดทั้งสาม ที่มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการกำเนิดธิโมส์รวมทั้งตอบคำถามสำคัญ อันเนื่องมาแต่ “มรรคาแสงดาว”
…หลังอ่าน…
สำหรับแฟนชุดธิโมส์คงคุ้นเคยเทพทั้ง 3 องค์แห่งธิโมส์กันดี เธมส์ เฮกัล กูตูร์ เทพทั้ง 3 ที่มีอิทธิพลต่อความเชื่อของชาวธิโมส์ และมีเรื่องเล่าตำนานมากมายให้ผู้คนได้เล่าขาน ว่าแต่เทพทั้ง3เป็นแค่ตำนานหรือเป็นเรื่องจริง เรื่องราวมหาสงครามศักดิ์สิทธิ์ล่ะ แล้วใครกันที่ได้หัวใจเธมส์ไป ใน “มรรคาแห่งรัก” มีคำตอบค่ะ
ใช่เลย “มรรคาแห่งรัก” มาเฉลยเรื่องราวที่หลายคนอาจจะอยากรู้ และหลายคนอาจจะสงสัย รวมทั้งทำให้เราได้รู้จักเทพทั้ง 3 องค์มากขึ้นด้วย ที่สำคัญพวกเราจะได้รู้ด้วยว่า “แผ่นดินแสงดาว” เกิดขึ้นได้อย่างไร
ฆีตาร์ นายแบบหนุ่มรูปหล่อถูกเชิญมาเป็นพระเอกในเล่มนี้ จริงๆ จะเรียกว่าพระเอกเต็มปากก็คงไม่ใช่นะ 555 เป็นเหมือนตัวกลางผู้ถ่ายทอดเรื่องราวให้เรารู้มากกว่า เมื่อฆีตาร์ต้องไปพบคุณตาที่เป็นเจ้าของปราสาทกูตูร์ ที่แก่หง่อมใกล้หมดอายุไข ไปทั้งๆที่ไม่รู้จัก ไปแบบงงๆว่าทำไมตัวเองต้องไป แล้วทำไมคุณตาผู้นี้ถึงต้องเลือกที่จะพบเขา แล้วเมื่อไปพบสิ่งไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเค้าเกิดนิมิตรเห็นภาพ จะว่าฝันก็ไม่ใช่ เพราะมันเหมือนจริงทุกอย่าง เพราะไม่ใช่แค่เห็น แต่สัมผัสได้จริงๆถึงทุกสิ่งที่เห็น
“ดวงตะวัน” สร้างเมืองสมมุติซ้อนเมืองสมมุติที่เปิดเผยเรื่องราวของเทพทั้ง 3 องค์ “ไตราธัม” อาณาจักรอันเก่าแก่ยาวนาน ที่มีเหล่าเธวา-เหล่าเทพเจ้า เจ้าของดินแดนแห่งนี้ , ดายัน – ผู้มีเวทและมนตรา , เวล – พวกครึ่งเทพ ไม่ว่าจะเทพครึ่งมนุษย์หรือเทพครึ่งสัตว์ก็ตาม , สรา – เหล่าสรรพสัตว์ที่พูดได้ และไพร่มนุษย์อยู่อาศัยร่วมกัน ขนาดเป็นเมืองแห่งเทพ การแบ่งแยกชนชั้นก็ยังไม่ละเว้น ไพร่มนุษย์ เผ่าพันธุ์ชั้นต่่ำสุดในอาณาจักร ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง เป็นแค่คนชั้นล่างใช้แรงงาน ชนชั้นต่ำสุดที่ใครๆ ก็รังเกียจ … อ่านแล้วแอบเจ็บปวดใจ
เรื่องราวและความสัมพันธ์อันแท้จริงของเทพทั้ง 3 องค์ที่ฆีตาร์ได้เห็น ไม่ใช่ความเกลียด ไม่ใช่การแย่งชิงอย่างที่เคยได้ยินๆกันมา หากเต็มไปด้วยความรัก และมิตรภาพที่ดีต่อกันต่างหาก หากแต่ที่เราไม่เคยรู้ คือเทพก็มีความโลภและความอิจฉาไม่แพ้มนุษย์ และนั่นก็เป็นเรื่องร้ายแรงและหายนะครั้งใหญ่ ที่อาจเป็นที่มาของมหาสงครามศักดิ์สิทธิ์ และเมื่อเหล่าไพร่มนุษย์ที่หาจุดยืนให้ตัวเองไมได้ ไม่มีพื้นที่ไหนที่เรียกได้เต็มปากว่าบ้าน ถูกใช้ให้ไปเป็นเครื่องมือในการทำสงครามครั้งใหญ่ แต่สงครามนี้จะยุติลงอย่างไร คงต้องไปติดตามกันต่อเอาเอง และใบ้ให้เลยว่านี่คือต้นเหตุแห่งการก่อเกิด “แผ่นดินแสงดาว”
สิ่งหนึ่งที่ชอบคือความสัมพันธ์ของเทพทั้ง 3 โดยเฉพาะมิตรภาพของเฮกัลและกูตูร์ ฉากตอนที่ทั้งสองประลองฝีมือกัน แล้วทำให้พบว่าเฮกัลเองก็มีความขี้เล่นเจ้าเล่ห์และบ้าระห่ำไม่แพ้กูตูร์หรอกน่า ฟากกูตูร์เองก็เหอะ ไม่ได้เลวร้ายตามที่ตำนานเล่าขานหรอก เค้าก็มีมุมความน่ารักและใจดีอยู่เหมือนกัน คงมีแค่เธมส์เองล่ะมั้งที่ดูเหมือนกับในตำนานที่สุด และเรื่องนี้ยังเฉลยภาพวาดในปราสาทกูตูร์ว่าหนึ่งหนุ่มและหนึ่งสาวที่ขั้นระหว่างเธมส์ กับเฮกัลและกูตูร์ว่าสองคนนี้เป็นใคร แต่บอกเลยว่าเมื่อเฉลยเรื่องราวความสัมพันธ์ทั้งหมดออกมา คนอ่านถึงกับหงายหลังตึง เหวอกันไปเล็กน้อย แล้วได้แต่พึมพำเบาๆ “ดวงตะวันทำงี้เลยเหรอ” 55555
แต่ก็แอบมีเรื่องคาใจเล็กๆ คือคุณตาคนนี้คือใครน่ะ อ่านจนจบยังเป็นปริศนา ถ้ารู้ว่าคุณตาเป็นใครข้อคาใจว่าทำให้ฆีตาร์เห็นและสัมผัสเรื่องในยุคนั้นได้อย่างไรก็คงหมดไปด้วย และอาจจะรวมถึงข้อกังขาว่า ทำไมต้องเป็นฆีตาร์ด้วยเช่นกัน
“มรรคาแห่งรัก” จบแบบไม่จบ ยังมีประเด็นให้ค้างคาให้ต้องตามอ่านกันต่อในเล่มถัดไป “ทิพย์แห่งรัก” แต่โดยรวมสำหรับเล่มนี้ยังคงน่าอ่านไม่ต่างจากเล่มอื่นๆในชุด ถึงแม้ในเรื่องอาจจะยังไม่มีจุดพีคนัก แต่การได้รับรู้เรื่องราวของเธมส์ทั้ง 3 ที่มาของตำนานใหญ่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อย คนเป็นแฟนชุดธิโมส์ยังไงก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง