Railay Great View ที่พักวิวสวยบนอ่าวไร่เลย์
เคยไปกระบี่ครั้งนึงเมื่อสมัยสิบกว่าปีที่แล้วค่ะ เป็นทริปฮันนีมูนแรกของเราสองคนเลยน้า คริคริ ตอนนั้นซื้อทัวร์ดำน้ำเกาะต่าง ๆ ไว้ด้วย จำได้ว่าตอนนั่งเรือเพื่อไปดำน้ำ เรือแวะไร่เลย์ แล้วคนลงที่นี่เยอะมากกกก จนตื่นเต้นว่าเค้าไปไหนกัน 555 คือโง่มากอ่ะตอนนั้น ไม่รู้จักไร่เลย์ แต่เห็นคนลงเยอะก็เลยบอกกับพี่เอ๋ว่า มากระบี่รอบหน้าขอมาเที่ยวที่นี่นะ 555 ผ่านมาสิบกว่าปีเพิ่งจะมีโอกาสได้กลับมาเยือนกระบี่อีกครั้ง ครั้งนี้รู้จักแล้วว่าไร่เลย์คืออะไร หุหุ แล้วรู้ด้วยว่ามีกิจกรรมให้ทำบนนี้เยอะเล้ยย มีปีนเขาด้วย want มาก แต่พี่เอ๋บอกให้ปีนคนเดียวนะ พี่เอ๋ไม่เอา ไม่ใจเลยเนอะ 555 หลังจากนั้นปฏิบัติการหาที่พักก็เริ่มขึ้น ปลาเป็นคนหาข้อมูลค่ะ มองๆ หาๆ ดูได้มาหลายโรงแรมอยู่ แล้วพี่เอ๋มาตัดสินใจสุดท้าย ตามเคยค่ะ เลือกจากวิวเป็นหลัก จริงๆ แล้วหลายๆ โรงแรมที่ดูๆมา บางทีนี่สวยมากเลย อยากได้ แต่ราคาโหดมาก เหอเหอ บางที่ดูจากแผนที่เหมือนมันเดินลึกเข้าไปมากเลยก็ผ่านไปก่อน (มารู้ตอนไปถึงแล้วว่า จริงๆ แล้วตัวไร่เลย์นี่มันไม่ได้ใหญ่มากเลย เดินทะลุถึงกันเกือบหมด555) สุดท้ายโรงแรมที่เข้าตาเราสองคนที่สุดคือ Railay Great View ค่ะ เมื่อเลือกได้ก็ไปจองกันเลย เราเข้าเว็บจองโรงแรมหลายที่เพื่อหาเว็บที่ถูกที่สุด สุดท้ายมาได้ราคาดีที่สุดในวันที่เข้าพักที่ www.Traveloka.com ที่นี่เค้ามีโปรให้เกือบตลอดเวลา แถมจองผ่าน App บนมือถือยิ่งถูกลงไปอีก
(ดูตำแหน่งโรงแรมด้วย Google Maps คลิกที่นี่)
ก่อนอื่นเลยมาดูการเดินทางกันก่อนค่ะ ตอนแรกเลยเข้าใจว่า Railay เป็นเกาะ แบบแยกออกไปเลย แต่ในความเป็นจริงมันเป็นส่วนนึงของแผ่นดินนั่นแหละ แต่ตรงอ่าวถูกล้อมด้วยภูเขาทำให้รถวิ่งเข้าไม่ถึงเท่านั้นเอง เลยต้องเดินทางไปด้วยเรืออย่างเดียว
การเดินทางสามารถไปได้ 2 วิธี คือขึ้นเรือที่อ่าวนาง โดยเรือจะจอดที่ท่าเรือฝั่งตะวันตก และอีกที่คืออ่าวน้ำเมา เรือจะจอดที่ท่าเรือฝั่งตะวันออก ส่วนวิธีการเลือกว่าจะไปทางไหนก็ง่าย ๆ ว่าที่พักเราอยู่ฝั่งไหนก็ไปขึ้นเรือที่ไปเทียบท่าฝั่งนั้น
ที่พักของเราอยู่ฝั่งตะวันออกเราเลยไปขึ้นเรือที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา ซึ่งมีเรือวิ่งเป็นรอบเวลาค่ะ ออกทุก ๆ ชั่วโมง ค่าเรือคนละ 80 บาทเอง ไม่แพงเท่าไหร่ หรือถ้าใครมากันเป็นกลุ่มจะเหมาเรือไปเลยก็ได้นะคะ ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 800ได้มั้งคะ
(ดูตำแหน่งท่าเรืออ่าวน้ำเมาด้วย Google Maps คลิกที่นี่)
พอได้เวลาเรือก็ออกตามเวลาเลยค่ะ ยกเว้นถ้าคนเยอะจนเรือเต็มจริงๆ เค้าก็ออกก่อนนะ จะบอกว่าทั้งลำถ้าไม่นับพี่คนขับเรือก็ดูมีเราสองคนนี่แหละที่เป็นคนไทย
นั่งเรือไปชมวิวไป อันนี้คืออะไรไม่รู้ โรงแรมมั้ง ชื่ออะไรก็ไม่รู้อีก 555
ภูเขาที่กระบี่นี่สวยดีนะคะ ดูแปลกตาดี ไม่เหมือนทรงภูเขาทั่วๆ ไป ชอบอ่ะ รูปนี้ตอนพี่เอ๋ถ่ายเพราะเห็นว่า Resort สวยดี แทรกตัวอยู่ในธรรมชาติ เพิ่งมารู้ที่หลังว่า ที่ถ่ายมานี่แหละ Railay Great View ที่พักของเรา
นั่งเรือมาประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ โปรดสังเกตฟ้า คือตกตั้งแต่มาถึงกระบี่ และไม่อยากบอกเลยว่าตกทั้งทริป – -‘
ขึ้นเรือเดินมาเรื่อยๆ ค่ะ เจอแผนที่ด้วย เท่าที่ดูจากแผนที่ โรงแรมของเราอยู่ฝั่งนี้แหละค่ะ อยู่ปลายสุดเลย ต้องเดินเลียบหาดไปเรื่อยๆ
แต่ในความเป็นจริงทะเลฝั่งนี้หาดไม่ค่อยสวยนะคะ ดูเล่นน้ำไม่ได้อ่ะ ดูเป็นดินๆโคลนๆ
ระหว่างเดินไปโรงแรม ก็เหมือนได้เดินสำรวจทางฝั่งนี้ไปด้วยเลย เจอโรงแรมนี้ ดูดี ดูหรู น่าจะแพงอยู่
ระหว่างทางเดินไปก็เจอบรรดาร้านอาหาร ร้านขายของ อะไรเยอะแยะมากมาย เดินไกลพอควรก็ยังไม่ถึงโรงแรมเราซะที เดินจนนึกว่าหลงป่ะวะเนี่ย 5555 สักพักเราก็เจอป้าย กรี๊ดดดดดดด ถึงแล้ว
แต่เหมือนโดนกลั่นแกล้ง โดนหลอก เดินเลยป้ายมาแล้วก็ยังไม่เจอโรงแรมซะที เจอร้านอาหารหรือร้านกาแฟแทน 5555 แต่โต๊ะที่นี่วิวสวยมาก
แต่เรายังคงไม่ย่อท้อ เดินต่อไป เริ่มรู้สึกหนทางดูเปลี่ยวขึ้นนิดๆ ทางเดินก็เป็นเนินขึ้นเรื่อยๆ (ได้คาร์ดิโอไปในตัว555) แอบระแวงว่าตกดึกทำไงวะเนี่ย ดูเปลี่ยวขนาดนี้ แต่พอหันไปมองทางทะเล เอ้อ ค่อยมีกำลังใจเดินต่ออีกนิด
แล้วหลังจากเริ่มรู้สึกระแวงกับหนทางที่เดินไป จู่ๆ เราก็เจอเหมือนทางขึ้นที่เป็นบันได แล้วพอเราเดินขึ้นบันไดไป เราก็พบกับสิ่งนี้ … เหยยย คือถึงแบบงงๆ แหมม แต่วิวตรงสระนี่ทำหายเหนื่อยเลยนะ
เดินเลยจากสระว่ายน้ำเข้าไป ก็เจอเหมือน shop ขายของเล็ก ๆ
ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องอาหารที่กำลังซ่อมแซมหลังคาอยู่ พนักงานบอกเพิ่งโดนพายุไปจนหลังคาพัง เหอเหอเหอ
นี่ยังไม่เจอล็อบบี้เลยนะ เดินจนเหนื่อยละ 5555 แล้วก่อนทางเข้าล็อบบี้เราก็เจอบันไดลงไปด้านล่างแบบนี้ค่ะ มารู้ตอนหลังว่า ว่า ว่า จริงๆ เรานั่งเรือแล้วบอกเค้าว่ามาลง Railay Great View เค้าจะมาส่งตรงนี้ค่ะ ด้านล่างนี่คือเดินลงไปท่าเรือ เหอเหอ ไม่มีใครบอกศรีเลย ตอนโทรกลับมาคุยกับทางโรงแรมก็ไม่เห็นมีใครบอกอ่าาาาา ศรีเสียจายยยย เหมือนโดนหลอกให้เดิน แต่เอาเหอะ จะถือว่าออกกำลังกาย วันนี้กินได้เต็มที่เลย ไม่อ้วน เพราะคาร์ดิโอไปเยอะ 55555
ว่าแล้วก็มาดูล็อบบี้กันบ้าง เป็นโอเพ่นแอร์ เปิดรับลมธรรมชาติเต็มที่
และเนื่องจากช่วงนี้ห้องอาหารกำลังซ่อมแซมหลังคา เค้าก็เลยย้ายให้เรามานั่งหม่ำข้าวกันตรงนี้ด้วยเลย
เช็คอินแล้วก็ไปห้องพักกันค่ะ ระหว่างทางเดินที่เต็มไปด้วยการเดินขึ้นลงเขา จนเหมือนได้เดินชันบนลู่ในฟิตเนส เราก็พบสปาค่ะ โอเพ่นแอร์เช่นกัน มีความธรรมชาติสูง แต่เราก็ชอบนะ
และนี่คือห้องพักของเราจ้าาาา มองจากมุมด้านล่าง มีความเป็นวิลล่าในป่าเขาลำเนาไพร 5555 แต่ละหลังก็มีระยะห่างกันนิดนึงนะ มีความเป็นส่วนตัวอยู่ล่ะ
เปิดประตูห้องพักปุ๊บ นี่คือสิ่งที่เห็น คือกรี๊ดดด วิวดีมาก มองทะลุออกไปคือต๊าาาาเล ไม่เห็นกันใช่ม้าาา แต่ของจริงอ่ะเห็นนะ ชัดเลย โทษพี่เอ๋ละกัน ถ่ายมาไม่เห็นเนี่ย อิอิ
ในส่วนของการตกแต่งก็เน้นความเป็นไม้ ความเป็นธรรมชาติ ได้อารมณ์มาพักบนเขาดี
ระเบียงก็กว้างขวาง นั่งนอนกินลมดูวิวได้สบาย แต่ระวังแมลงหรือยุงนิดนึง ยุงดุมากด้วย บอกเลย
ไปสำรวจห้องน้ำกันค่ะ คือเปิดประตูมาห้องน้ำเข้าไปปุ๊ปถึงกับตกใจ คือมันใหญ่มากกก ทำได้อีกห้องนึงเลยล่ะ ล้อมวงเล่นไพ่ได้สัก 3 วงสบายๆ 5555
ออกจากห้องน้ำมา เพิ่งสังเกตบนเตียงมีช้างน้อยรอต้อนรับอยู่ น่ารักเชียว
ส่องจากระเบียงไปหลังข้างๆ บ้าง เอ่อ เราว่าหลังของเราดีกว่าเลย ต้นไม้ไม่บังวิวเยอะมาก
และเนื่องจากทางเดินที่พักที่แอบเปลี่ยวใจเบาๆ เราสองคนเลยตัดสินใจค่ะว่า ฝากท้องมื้อเย็นที่โรงแรมเลยละกัน ไม่อยากเดินกลับโรงแรมตอนมันมืดแล้ว เสียวหลัง แหะแหะ ว่าแล้วเราก็ลงไปล็อบบี้อีกครั้งเพื่อหม่ำอาหารกันค่ะ และเท่าที่สังเกตดู คนทานในโรงแรมก็พอควรเลยนะคะ เต็มเกือบทุกโต๊ะเลย ว่าแล้วก็สั่งน้ำมาก่อนเลยค่ะ จริงๆ แล้วมันคือ welcome drink นะคะ แต่เค้าให้เราเลือกได้เองว่าจะทานตอนไหน สบายเรา มื้อนี้ประหยัดค่าน้ำไป 2 แก้ว 5555 แก้วแรกน้ำแตงโมของพี่เอ๋ค่ะ ส่วนของปลาเป็นน้ำผลไม้รวม คือ กินน้ำเปล่าดีกว่าอ่ะค่ะ แหะแหะ
พี่เอ๋อยากกินพิซซ่าค่ะ มาเที่ยวทะเลแต่มากินพิซซ่่า นี่คืองงมาก 555 กินเป็นหน้าเดียวอีกตะหากนะ หน้าฮาวาเอี้ยน รสชาติคือมาตรฐานพิซซ่าทั่วไปค่ะ
จะสั่งจานหลักอีกจานมาก็กลัวจะกินกันไม่หมดนะ เลยสั่งเป็นค็อกเทลกุ้งมาแทน ก็รสชาติตามมาตรฐานเช่นกัน เราว่าอาหารเค้าดูไม่ค่อยเด่นอ่ะค่ะ เดี๋ยวต้องรอดูมื้อเข้าอีกที
ว่าแล้วก็มาดูอาหารเช้าของที่นี่กันเลยดีกว่า เป็นบุฟเฟต์ค่ะ อาหารก็พอประมาณ ไม่ได้เยอะมาก รสชาติก็ธรรมดาอีกแล้ว มีผัดหมี่อย่างเดียวที่รู้สึกว่าโอเค
สรุป
เราพักที่ Railay Great View คืนเดียวค่ะ ขากลับนี่ฉลาดแล้ว เราเลยกลับทางท่าเรือของโรงแรมแทน โดยจะมีเรือของโรงแรมสำหรับรับส่งพนักงานฟรีไปที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมาเวลา 11 โมง กับ บ่ายสาม เราสามารถติดเรือกลับไปด้วยได้ พอลงมานั่งในเรือแล้วก็เพิ่งเห็นนะ ว่ามันมีป้ายโรงแรมอยู่ตรงนี้ด้วย เหอเหอ โดยรวมที่พักโอเคเลยนะคะ มีความเป็นธรรมชาติดี อากาศดี วิวดี ถ้านั่งเรือมาขึ้นท่าเรือของโรงแรมก็ถือว่าเดินทางสะดวกค่ะ 555 แต่ด้วยความที่อยู่บนเขาแมลงหรือยุงเลยเยอะมาก ยุงโหดมาก กัดทะลุกางเกงยีนส์เลย ตัวอย่างใหญ่ด้วย ไม่ขอพูดเรื่องทางเดินในโรงแรมที่มันเป็นเนินเขาขึ้นลงนะคะ เพราะเราไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นข้อเสียจริงๆ พักที่พักบนเขา มันยอมรับได้สำหรับประเด็นนี้ค่ะ มองเป็นดีคือได้ออกกำลังกายไปในตัว แต่ถ้าใครมีผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีปัญหาเรื่องแข้งขามาด้วย อาจต้องหาที่พักที่อื่นแทนค่ะ ที่ไม่ปลื้มของที่นี่คือเรื่องอาหาร รสชาติธรรมดาถึงขั้นไม่อร่อย แต่โดยรวมถือเป็นที่พักที่คุ้มราคาอยู่ค่ะ แลกกับวิวและบรรยากาศแบบนี้
Review Scores
ห้องพัก - 8.5
บริการ - 7
บรรยากาศ - 9
อาหาร - 6
ราคา - 8
ที่ตั้ง - 8
7.8
วิวงาม
วิวสวย มีความเป็นส่วนตัวสูง แต่ไกลจากท่าเรือ และ อาหารรสชาติธรรมดา