บุพเพสันนิวาส – รอมแพง

บุพเพสันนิวาส – รอมแพง

เพิ่งอ่านงานของรอมแพงเล่มนี้เป็นเล่มแรกค่ะ รุ่นน้องให้ยืมมาอ่าน  จริงๆ อ่านไปนานพอสมควรแล้วล่ะ  พอเห็นละครออนแอร์นี่ก็นึกได้ว่ายังไม่เคยรีวิวลงที่นี่เลยเนอะ  หยิบมาปัดฝุ่นหน่อยแล้วกัน  ชื่อบุพเพสันนิวาส โรแมนติก ละมุนละไม ชวนฝัน แต่อ่านจบแล้วนี่มันนิยายขำขันหรือเปล่าเนี่ย 5555

 

เรื่อง – บุพเพสันนิวาส
ผู้แต่ง – รอมแพง
สนพ – ฟิสิกส์เซ็นเตอร์
จำนวนหน้า – 512 
ราคา – 285บาท

 

จากเว็บ http://www.pc-bookclub.com/

เรื่องราวสนุกสนาน เกิดขึ้นเมื่อ “เกศสุรางค์” อาจารย์สาวร่างท้วม ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ แล้วลืมตาตื่นขึ้นมาในร่างของสาวสวย ผอมบาง ตอนแรกเธอเองก็อยากจะดีใจหรอก เพียงแต่เธอกลับต้องมารับรู้ว่า ตัวเองได้โผล่มายุคในยุคพระนารายณ์มหาราชย์ และไม่รู้จักใครเลย! แถมยังเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งเรือนยกเว้นบ่าวพี่เลี้ยงสองคน ด้วยร่างของคนที่เธอเข้ามาอยู่ คือร่างของ “แม่หญิงการะเกด” ผู้มีความงามเป็นเลิศพอๆ กับความร้ายกาจ ยิ่งลูกชายเจ้าของเรือนหน้าขรึมดุ ก็ดูท่าทางจะไม่ชอบขี้หน้าการะเกดซึ่งเป็นคู่หมายของตัวเองอยู่ไม่น้อย แต่มีหรือที่เกศสุรางค์จะจำยอมกับเรื่องแบบนี้ ในเมื่อเธอเป็นผู้หญิงยุค 2010 ดังนั้นการจะมานั่งพับเพียบเรียบร้อย ทำตัวสงบเสงี่ยม ไม่มีปากมีเสียง ให้ใครอื่นมาพูดจากระทบกระเทียบนั้นไม่มีทาง!

 

… หลังอ่าน ...

 

พล็อตเรื่องเป็นแนวทะลุเวลากลับมาอดีต เพียงแต่เรื่องนี้นางเอกเราตายจากชาติปัจจุบันเลย  ทำให้ไม่ต้องคิดเรื่องจะกลับไปสู่ยุคปัจจุบันเลย ตัดปัญหาเรื่องนี้ไป
อ่านเรื่องนี้แล้วเหมือนได้อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ไปด้วย  จากที่เคยเรียนมา แต่คืนครูบาอาจารย์ไปหมดแล้ว 555  ก็ต้องบอกว่าได้ความรู้กลับมาพอสมควรค่ะ
ปกติไม่ค่อยได้อ่านนิยายอิงประวัติศาสตร์แบบนี้สักเท่าไหร่  สำหรับเรื่องนี้อ่านจบแล้วต้องบอกว่า  ค่อนข้างชอบนะคะ เพราะรู้สึกว่าได้ความรู้ไปด้วยเลย  ได้เห็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม  อ่านแล้วก็คิดว่าถ้าตัวเองได้อยู่ในสถานการณ์แบบนางเอก  จู่ๆ ก็ย้อนกลับไปเป็นร้อยปีแบบนี้ แถมได้ใกล้ชิดกับผู้อยู่ในตำนานทั้งหลาย  จะรู้สึกอย่างไร คงน่าขนลุกพิลึกเลยเนอะ เหอเหอเหอ
อ่านเล่มนี้แล้วนึกถึงอีกเล่มที่เคยอ่านไป “ข้าบดินทร์ ของ คุณวรรณวรรธ์” เล่มนั้นอ่านแล้วแทบจะกลายเป็นควาญช้างเอง   เพราะเขียนเกี่ยวกับควาญช้างละเอียดมากกกกกก 5555  เล่มนี้ถึงแม้ไม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องนึงแบบละเอียดมากนัก  แต่ก็เป็นเหมือนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวในหน้าประวัติศาสตร์  ที่เราว่าน่าสนใจทีเดียวค่ะ เล่มนี้อ่านเลยอ่านแบบติดหนึบวางไม่ลงเลยล่ะ

ภาพจำติดใจ ติดสมองของเรื่องนี้คือฉากคิดค้นขนมของ “ท้าวทองกีบม้า” จริงๆแล้ว ท้าวทองกีบม้า หรือ มารี กีมาร์ เดอ ปีนา (Marie Guimar de Pihna) ได้ชื่อว่าเป็นต้นตำรับทำขนมไทย  ประเภท ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ในสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  จนมีผู้ยกย่องว่าท้าวทองกีบม้าเป็น “ราชินีแห่งขนมไทย”  ฉากตอนที่นางทองกีบม้ากำลังคิดค้นขนมอยู่ แล้วนางเอกของเราได้แวะไปเยี่ยมเยียน  เห็นนางกำลังตั้งหน้าตั้งตาทำขนมอยู่  ซึ่งก็ดูแล้วน่าจะเป็นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองในปัจจุบัน  ในหนังสือเล่าว่า ทองหยิบตอนนั้นยังเป็นแผ่นกลมๆ ธรรมดา  แล้วนางเอกของเราหยิบขึ้นมากินแต่ดันทำหล่นลงไปในถ้วย
ทำให้ขนมที่ร้อนอยู่เริ่มห่อตัวขึ้นเป็นจีบ  นางทองกีบม้าเห็นเข้าเลยปิ๊งไอเดีย ว่าน่าทำเป็นรูปทรงนั้น  อ่านแล้วก็แอบขำค่ะ ว่าถ้าต้นกำเนิดขนมทองหยิบเป็นแบบนั้นจริง  คงฮามิใช่น้อยเลยทีเดียวนะ 5555

อ้อ ลืมบอกไปค่ะว่า  นางทองกีบม้าในเรื่องนี้เป็นเพื่อนของนางเอกเราค่ะ เพื่อนสนิทเลยด้วยนะคะ  แหม ถ้าเราได้ย้อนกลับไปแล้วได้เป็นสนิทกับคนสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์  คงแปลกดีพิลึกนะคะ เพื่อนๆ ว่ามั้ย

 

จำได้ว่าตอนอ่านนิยายเล่มนี้ชอบแค่ไหน พอรู้ข่าวช่อง 3 จะสร้างเป็นละครก็ตื่นเต้นมากมาย  พอออนแอร์แล้วก็ไม่พลาดที่จะดู  แหม ต้องขอชมนางเอกคนสวย เบลล่า  ที่เล่นได้ดี เล่นแบบไม่ห่วงสวยกันเลยทีเดียว 5555