Thames Valley เขาใหญ่ ที่พักสไตล์อังกฤษ ความลงตัวที่สมบูรณ์แบบ

Thames Valley เขาใหญ่ ที่พักสไตล์อังกฤษ ความลงตัวที่สมบูรณ์แบบ

เขาใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนกรุงเทพฯ ด้วยระยะทางขับรถแค่ 2 ชั่วโมงหน่อย ๆ ก็สามารถสัมผัสธรรมชาติและอากาศเย็นแบบต่างประเทศได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ที่พักเขาใหญ่ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งแต่ละที่นั้นก็พยายามสร้างความโดดเด่น และ แตกต่างเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักท่องเที่ยวในยุคโซเชี่ยล ที่ไปไหนต้องเช็คอิน สถานที่สวย ๆ ยั่วน้ำลายเพื่อน ๆ ในโลกออนไลน์กันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้ว และที่ Thames Valley เขาใหญ่ โรงแรมที่ทำให้เราได้สัมผัสถึงความงามของหมู่บ้าน สไตล์ English countryside ถ้าไปตอนหน้าหนาวนี่จะรู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่เมืองไทยเลยทีเดียว

สำหรับรายละเอียดเช่นราคาห้องพักสามารถดูได้ที่ Website ของ Thames Valley ซึ่งราคาแต่ละวันจะไม่เท่ากัน แต่เท่าที่ลองดู ผมแนะนำให้จองที่พักในเขาใหญ่ผ่าน Traveloka.com จะดีกว่า ผมไล่ดูหลายวันเปรียบเทียบกับ Website อื่น ๆ แล้ว พบว่าที่นี่ถูกที่สุด ถูกกว่าจองผ่าน Website โรงแรมเองด้วยซ้ำ แถมการดูราคาก็ง่าย เพราะราคาที่เห็นเป็นราคาสุดท้ายที่ไม่ต้องบวกอะไรเพิ่มแล้ว ไม่เหมือนหลาย ๆ Web ที่มักโชว์ราคาก่อนภาษีทำให้ดูเหมือนถูกแต่พอรวมแล้วกลายเป็นแพงกว่า การจองที่พักผ่าน Traveloka ก็ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตก็จองห้องได้ แถมจองบนแอปยังถูกกว่าด้วย

Thames Valley ตั้งอยู่บนถนนธนะรัขต์ (ถนนเส้นหลักสำหรับขึ้นเขาใหญ่) ห่างจาก Palio เขาใหญ่ เพียง 2 กิโลเมตร ถ้ามาจากถนนมิตรภาพ ต้องขับเลย Palio มาก่อน และ Thames Valley จะอยู่ขวามือ ถ้ามองเห็นตึกรูปร่างเหมือนกำแพงปราสาทก็ถึงแล้ว ที่จอดรถของโรงแรมจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ด้านหน้าติดถนนจะเป็นที่จอดสำหรับคนมากินข้าว หรือ Afternoon Tea ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ส่วนคนที่เข้าพักจะจอดด้านในใกล้กับ Lobby เพื่อสะดวกในการ Check-in

(ดูตำแหน่งด้วย Google Maps คลิกที่นี่)

จอดรถเสร็จจะมี รถกอล์ฟมารอรับเลยทั้ง ๆ ที่เดินไม่ถึงร้อยเมตรก็ถึง lobby แล้ว

ทางเดินไป Lobby จัดสวนไว้แบบสมมาตรสวยดี ภายในก็ตกแต่งเก็บรายละเอียดได้ดี แม้ว่า Lobby จะค่อนข้างเล็กแต่เพดานสูงก็ช่วยให้ไม่รู้สึกอึดอัด

Welcome Drink เป็นน้ำทับทิม สดชื่นดีเหมือนกัน

หลังจาก Chenk-in เสร็จแล้วเดินทะลุ Lobby มาอีกฝั่งจะเป็นประตูเข้า Zone ที่พัก ซึ่งให้ความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง คนทั่วไปที่มากินข้าวหรือขนมไม่สามารถเข้า Zone นี้ได้

พอเดินผ่านประตูเข้ามาก็จะเจอภาพแบบนี้ ถ้าไม่นับความร้อนของแดดในช่วงหน้าฝนที่ผมไป บรรยากาศนี่เหมือนไม่ได้อยู่เมืองไทยแล้ว

มาดูห้องพักกันบ้าง ห้องพักแบบ Deluxe จะอยู่ในตึกมี 2 ชั้น ส่วนห้อง Suite และ Pool Villa จะอยู่ด้านในแยกเป็นหลัง ๆ ผมพักห้อง Deluxe Thames Garden ขนาด 40 ตรม. ถือว่าห้องใหญ่เหมือนกัน ห้องจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน เดินเข้ามาจะเป็นส่วนรับแขกเล็ก ๆ ตู้เย็นและมินิบาร์จะอยู่ตรงนี้ โดยน้ำขนมทั้งหมดที่อยู่ในห้องสามารถกินได้หมด ไม่มีชาร์ตเพิ่มแล้ว

ส่วนต่อมาเป็นส่วนห้องนอน ไม่มีประตูกั้นระหว่างส่วนรับแขกกับส่วนนี้ แต่ทำเป็นช่องประตู่ไว้เพื่อแยกกัน ที่นอนให้ความรู้สึกนุ่มแต่ก็มีความแน่นอยู่ นอนสบายทีเดียว TV จะตั้งอยู่ส่วนนี้ มีประตูสำหรับเดินออกไปนั่งเล่นที่ระเบียงเล็ก ๆ ด้วย

จากห้องนอนไปดูห้องน้ำกันต่อ ห้องน้ำที่ Thames Valley ตกแต่งเหมือนเป็นห้องครัว ถือว่าใหญ่เหมือนกัน (ไม่กว้างมากออกไปทางยาว) มีแยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้ด้วยผ้าม่าน ห้องอาบน้ำเล็กไปนิดนึง ในนี้มีน้ำเปล่าให้อีก 2 ขวดด้วย คงเอาไว้ให้แปรงฟันสำหรับคนไม่ค่อยชอบรสชาติน้ำประปาที่เขาใหญ่เพราะมันค่อนข้างกระด้าง

การเข้าออกประตูห้องจะใช้เป็นบัตรทาบสำหรับเปิดประตู 1 ห้องได้บัตร 2 ใบไม่ต้องแย่งกันใช้

สำรวจในห้องเรียบร้อยแล้วออกมาเดินดูตัวโรงแรมกันบ้าง เริ่มจากสระว่ายน้ำ ถูกซ่อนไว้หลัง Rose SPA ถ้ามาจากทางเข้าส่วนที่พัก SPA จะอยู่ซ้ายมื้อ สระว่ายน้ำอยู่ด้านหลังอีกที สระว่ายน้ำที่นี่ไม่ใหญ่มาก ตกแต่งก็ธรรมดา แถมใช้กระเบื้องสีเข้มทำให้น้ำดูเขียว ๆ ไม่ค่อยน่าว่ายเท่าไหร่

พื้นที่ทั้งหมดของโรงแรมไม่ได้กว้างมาก มีทางน้ำไหลผ่านตรงกลางสร้างบรรยากาศแม่น้ำ Thames ที่อังกฤษ แต่ก็เพียงพอที่จะหามุมถ่ายรูปสวย ๆ ได้หลายมุม บรรยากาศเงียบสงบ พนักงานยิ้มแย้ม ทักทายตลอด

ด้านในของโรงแรมเป็น Pool Villa ตั้งชื่อตามเมืองของอังกฤษเช่นกัน ตรงนี้ดูเหมาะสำหรับคนที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวมาก ๆ

มาดูส่วนห้องอาหารและร้านเค้กกันบ้าง ห้องอาหารของ Thames Valley ชื่อ The Castle Restaurant ผมได้ลองแต่อาหารเช้าซึ่งจะรีวิวตอนท้าย ส่วนร้านเค้กชื่อ Clotted Cream Tea Room ซึ่งทั้ง 2 ร้านสามารถเดินหากันได้

บรรยากาศร้าน ดูดี ดูหรู ดูแพง ทีเดียว ที่นั่งมีทั้งส่วนห้องแอร์ และ ด้านนอก ซึ่งจะได้วิวโรงแรมที่สวยงาม ที่ใคร ๆ มากินก็ต้องถ่ายรูปที่จุดนี้กลับไป

ชาที่นี่ใช้ชาของ TWG ใครชอบกินอยู่แล้วก็เลือกรสที่ชอบได้เลย

ผมไปกินที่นี่มา 2 รอบ ครั้งแรกกิน Scone (120 บาท) กับ Mille Feuille (120 บาท) พร้อมน้ำคนละแก้ว น้องปลาชอบ Scone มาก ความนุ่มกำลังดี แต่ครีมที่มาด้วยอร่อยทุกอย่าง ทั้ง นม เนย และ ซอสสตรอเบอร์รี่ ส่วน Mille Feuille เป็นโปรโมชั่นแจกฟรีจากการเข้าพักในตอนนั้น รสชาติดี กรอบอร่อย

ส่วนน้ำน้องปลาสั่ง Hazelnut Latte 130 บาท ไม่หวานมาก อร่อยกลมกล่อม

ผมสั่ง Ice Lemon Bush 180 บาท จิบครั้งแรก จะได้รสชาอยู่ในปาก มีความเปรี้ยวนิด ๆ แต่พอกลืนลงไปแล้วจะได้รสเปรี้ยวอ่อน ๆ ในคอ อร่อยมาก เมนูนี้ชอบเลย

ครั้งที่ 2 สั่ง Afternoon Tea set มี 2 ราคา แบบ 1 คน 450 บาท กับ 2 คน 600 บาท ขนมที่เสิร์ฟเหมือนกัน ต่างกันเพียงเลือกชาได้ 1 รส กับ 2 รส แต่เป็นชาร้อนทั้งคู่ ผมไม่ค่อยชอบกินชาร้อนเท่าไหร่เลยสั่ง Afternoon Tea Set 1 คน แล้วสั่งน้ำแยกต่างหาก

ชาร้อน ของน้องปลา คือ Eternal Summer Tea ราคาปกติที่ 150 บาท รสชาติเปรี้ยวนิด ๆ หอมกุหลาบอ่อน ๆ ถือว่าดีงามทีเดียว

ของผมลอง Iced Alfonso 180 บาท เป็นชาดำผสมมะม่วง รสชาติใช้ได้ แต่สู้ Lemon Bush ไม่ได้เลย

มาดูขนมกันบ้าง บอกเลยว่าโคตรคุ้ม เพราะราคา 450 ถ้าหักค่าชาออก 150 เหลือ 300 เฉพาะ Scone ที่มาก็ 120 บาทไปแล้ว ที่เหลือรวมกัน 180 บาท เมนูนี้ถือว่าไม่แพงเลย

รสชาติโดยรวมแล้ว อร่อยทุกอย่าง ยกเว้น มาการอง ที่หวานเกินไปหน่อย นอกนั้นดีงามมากมาก

กินอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นถ่ายบรรยากาศกันดีกว่า

ช่วงกลางวันที่นี่ก็ดูสวยอยู่แล้ว แต่พอตกเย็นก็ยิ่งดูโรแมนติกขึ้นไปอีก

มาดูอาหารเช้ากันบ้าง อาหารเช้าเสิร์ฟที่ห้องอาหาร The Castle

Line อาหารจัดได้สวยงามมาก ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่จัด Line อาหารเช้าได้สวยที่สุด

มีของเลือกมากมายของอาหารไทย ฝรั่ง

ซุ้มไข่ก็มีเมนูให้เลือกหลากหลาย มีไข่กะทะด้วยนะ

โดยภาพรวมแล้ว Thames Valley เขาใหญ่ ถือเป็นที่พัก ที่สมบูรณ์แบบทั้ง บรรยากาศ ห้องพัก และ อาหาร เรียกว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ในนี้ได้ทั้งวัน คุ้มทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไปแน่นอน