คฤหาสน์ซ่อนตาย – yusuke kishi

คฤหาสน์ซ่อนตาย –  yusuke kishi

 

คฤหาสน์ซ่อนตาย ผลงานเขียนของ yusuke kishi  เป็นครั้งแรกที่ได้อ่านผลงานของนักเขียนคนนี้ค่ะ มีรุ่นน้องให้ยืมมาอ่าน น้องว่าสนุกดี แต่ช่วงต้นจะน่าเบื่อนิดนึง ไม่เป็นไรค่ะ เราเคยผ่านนิยายน่าเบื่อมาแล้ว เบื่อจนถึงขั้นไม่จบเลิกอ่านไปเลยก็มี  เล่มนี้จะน่าเบื่อสักแค่ไหนเชียว เรื่องนี้เราต้องมาพิสูจน์กันค่ะ

เรื่อง – คฤหาสน์ซ่อนตาย
ผู้เขียน – yusuke kishi
ผู้แปล – Amadeus
สนพ – สยามอินเตอร์บุ๊คส์
จำนวนหน้า – 433
ราคา – 280บาท

…เรื่องย่อจากปกหลัง…

วาคาทสึกิ ชินจิ เป็นพนักงานบริษัทประกันชีวิตประจำสาขาเกียวโต เขามีหน้าที่ตรวจสอบการจ่ายเงินประกันชีวิต วันหนึ่งเขาถูกเรียกตัวไปยังที่บ้านของลูกค้า   และกลับกลายเป็นคนแรกที่พบศพเด็กแขวนคออยู่ อีกไม่นานนักคำร้องขอรับเงินประกันจากครอบครัวของเด็กคนนั้นก็ถูกส่งมา   ทว่าท่าทีที่น่าสงสัยของลูกค้าทำให้วาคาทสึกิเชื่อว่านี่อาจเป็นการฆาตกรรม เขาจึงลงมือสืบหาความจริงด้วยตนเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีฝันร้ายที่สุดบรรยายกำลังรอเขาอยู่

…หลังอ่าน…

เนื้อเรื่องก็ตามเรื่องย่อด้านบนเลยค่ะ วาคาทสึกิ เป็นพนักงานบริษัทประกันชีวิต แต่ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งเซลล์นะคะ อยู่ในตำแหน่งประมาณผู้ตรวจสอบมากกว่า   หน้าที่ของเค้าก็ประมาณตรวจสอบเอกสาร พิจารณาในเรื่องการจ่ายค่าชดเชยอะไรทำนองนี้ หลายๆ ครั้งที่เค้าต้องลงไปพบกับผู้ทำประกันด้วยตัวเอง เมื่อดูมีเหตุไม่ชอบมาพากล  ก็ไม่น่าเชื่อว่า มีบางคนที่ยอมสละอวัยวะหรือชิ้นส่วนของร่างกายตัวเอง เพียงเพื่อแลกกับเงินประกัน ส่วนตัวเราว่ามันไม่น่าจะคุ้มกัน แต่สำหรับคนที่หลังพิงกำแพงแล้ว การเสียแค่นิ้วก้อยไปสักนิ้วนิดอาจจะคุ้มค่ากับเงินก้อนนั้นก็เป็นได้  

วันนึงมีเคสที่ระบุเจาะจงว่าต้องการพบวาคาทสึกิโดยเฉพาะ เค้าจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไปพบ แต่เมื่อไปถึงกับพบศพเด็กแขวนคออยู่ สภาพเหมือนดูการฆ่าตัวตายแน่นอน  หากปฏิกิริยาของคนเป็นพ่อที่วาคาทสึกิเห็นกลับทำให้เค้ารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล จนเค้าเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรมเสียมากกว่า  แต่ฝั่งตำรวจเองก็ไม่ยอมสรุปว่าในความจริงแล้วเป็นฆาตกรรมหรือไม่ ทำให้การจ่ายเงินประกันต้องชะงักไป แต่ฝั่งผู้เอาประกันกลับคอยหมั่นมาทวงถามเรื่องเงินได้ทุกวัน  จนวาคาทสึกิอดรนทนไม่ได้ ต้องออกโรงสืบหาข้อมูลนั้นด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่เค้าต้องพบคือการทยอยเสียชีวิตของคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทีละคนสองคน และตัวเค้าเองนี่แหละที่อาจต้องเป็นเหยื่อเสียเองด้วย

ต้องบอกเลยว่าอ่านไปช่วงแรกๆ นี่ทำท่าจะวางหลายทีมาก เพราะเนื้อเรื่องหนักไปทางบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประกัน กิจวัติประจำวันของพนักงานบริษัทประกัน  กฏระเบียบเงื่อนไขการทำประกันต่างๆ ลำดับขั้นตอนการทำงานอะไรเยอะแยะไปหมด อ่านแล้วชวนจะหลับ เลยอ่านๆ วางๆ อยู่พักนึงเลยทีเดียว แล้วประเด็นคือมันเป็น 1 ในสามส่วนของหนังสือเลยนี่สิ  จบในส่วนของเนื้อหาประกัน มาเจอทฤษฎีทางจิตวิทยาเข้าไปอีก บอกเลยว่ารู้สึกเหมือนถูกยัดเยียด การใช้ฉากนั่งสนทนาแต่ทฤษฎีอย่างเดียว เป็นสิบหน้านี่มันไม่ไหวจริงๆ นะเธอ  คือมันไม่เนียนอ่ะเธอ มันดูหนักไปนิด กว่าจะจบส่วนนี้ไปได้ ก็หมด 2 ใน 3 ส่วนของหนังสือเข้าไปแล้ว … นี่ชั้นก็ทนอ่านมาจนได้อ่ะนะ 5555 แต่พอผ่านส่วนนี้ไป ความตื่นเต้นจึงค่อยบังเกิดค่ะ  ความระทึกสยองขวัญก็ตามมา ส่วนสุดท้ายนี่เล่นเอาแทบวางไม่ลงเหมือนกัน และเมื่อเฉลยฆาตกรก็โรคจิตดีๆ นี่เองอ่ะ

โดยรวม เป็นนิยายสืบสวนที่ 2 ใน 3 ส่วนแรก ค่อนข้างน่าเบื่อเลยล่ะ พูดตรงๆ ถ้าสามารถกัดฟันอ่านพ้นไปได้ อะไรๆ มันก็ดีขึ้น ถึงแม้ว่าอ่านแล้วจะเกิดคำถามในเรื่องการฆาตกรรมในบางเคส ว่าฆาตกรทำได้อย่างไร  ในเมื่อเหยื่อบางคนนี่ดูไม่น่าถูกจับมาได้ง่ายๆ แล้วบอกเลยว่าแต่ละคนที่ตายไปนี่ไม่ธรรมดา สยดสยองใช้ได้เลยล่ะ ถ้าใครชอบสืบสวนเลือดสาดก็หยิบมาอ่่านได้ แต่ทำใจกับช่วงแรกๆ นิดนึงละกัน